เข้าปีใหม่แล้ว หลายคนที่ตั้งใจจะเก็บเงินมาตั้งแต่ต้นปีก่อน จนกระทั่งเวลานี้ก็ยังเก็บเงินไม่ได้อย่างที่ตั้งเป้าไว้สักที เลยถือโอกาสมาแบ่งปันวิธีการเก็บเงินในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้คนที่ตั้งใจจะเก็บออม ได้มีไอเดียในการเก็บออมของตัวเอง ปีใหม่จะได้เริ่มต้นเก็บออมเงินใหม่ รับรองว่า 4 วิธีออมเงินนี้ ทำได้ไม่ยาก ถ้าทำตามคำแนะนำทุกวัน รับรองมีเงินก้อนตอนสิ้นปีอย่างแน่นอน
เลือกเก็บออมธนบัตรที่ชื่นชอบ
วิธีการเก็บเงินที่ค่อนข้างได้รับความนิยมมากที่สุด เห็นจะเป็นการเก็บแบงค์ 50 ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่จำเป็นต้องเก็บเฉพาะแบงค์ 50 เพียงชนิดเดียว เราอาจจะเก็บแบงค์ใหม่ แบงค์ 20 หรือแบงค์ 100 ก็สามารถทำได้ แต่ด้วยแบงค์ 50 เป็นธนบัตรที่มีมูลค่ากลาง ๆ ไม่ต่ำหรือสูงเกินไป การแบ่งเอามาเก็บวันละ 50 บาทนั้น ไม่ได้ทำให้รู้สึกขัดสนมากนัก จึงทำให้หลายคนเลือกที่จะเก็บเป็นแบงค์ 50 มากกว่าแบงค์อื่น เมื่อไหร่ที่ได้รับธนบัตรแบงค์ 50 มา ก็ต้องเก็บไว้หยอดกระปุกทันที ห้ามใช้เป็นอันขาด เก็บแบบนี้ตลอดปีรับรองว่ามีเงินออมหลักหมื่นอย่างแน่นอน
บังคับให้ตัวเองหยอดกระปุกเงินออมทุกวัน
วิธีง่าย ๆ ไม่ต้องคิดมาก คือการบังคับตัวเองให้หยอดกระปุกเงินออมทุกวัน บางคนบังคับว่าต้องหยอดวันละ 20 บาท 1 ปีจะทำให้เรามีเงินออมมากถึง 7,300 บาทเลยทีเดียว หรือหากใครที่อยากมีเงินออมมากกว่านั้น ก็เพิ่มสัดส่วนเงินออมในการหยอดต่อวันให้มากขึ้น หรือจะใช้วิธีการบังคับตัวเองให้ออมทุกวัน มีมากก็หยอดกระปุกออมมาก และกำหนดขั้นต่ำว่าหากไม่มีเงินเลยก็ต้องหยอดวันละ 10 บาท เป็นต้น จะกำหนดหยอดวันละกี่บาทก็ได้ แต่หัวใจสำคัญของวิธีการนี้คือการหยอดทุกวันอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งต้องอาศัยความมีวินัยในตัวเองสูงพอสมควร
เก็บเงินตามวันที่ในปฏิทิน
การเก็บเงินตามวันที่ในปฏิทินจะสามารถทำได้ 2 วิธี ได้แก่
- การเก็บเงินตามจำนวนวันที่ วิธีนี้ทำได้ง่าย ๆ คือหยอดกระปุกตามวันที่ สมมุติวันที่ 1 ก็หยอด 1 บาท วันที่ 2 หยอด 2 บาท หยอดกระปุกตามจำนวนของวันที่ จนถึงวันที่ 30 ก็หยอด 30 บาท วันที่ 31 ก็หยอด 31 บาท แบบนี้เป็นต้น การหยอดกระปุกแบบนี้ ทำให้เรามีเงินเก็บเดือนนึง 400 – 500 บาทเลยทีเดียว แม้ว่าจะดูมีมูลค่าน้อย แต่หากเปรียบเทียบจากวิธีเดิมที่เราเคยทำแล้ว ไม่สามารถเก็บออมเงินไว้ได้ การเก็บแบบนี้ก็ทำให้เรามีเงินเก็บเพิ่มขึ้นมาปีหนึ่ง ๆ ก็ค่อนหมื่นได้เลยทีเดียว และเมื่อเราเก็บแบบนี้ทุกวัน ๆ เงินออมก็จะเพิ่มพูนขึ้นทีละเล็กทีละน้อย แถมการหยอดกระปุกทุกวัน ยังเป็นการกระตุ้นเตือนตัวเองให้มีนิสัยรักการออมอีกด้วย
- การเก็บเงินตามลำดับจำนวนวันของปี การออมแบบที่สองนี้ คล้าย ๆ กับวิธีการแรก แต่ต่างกันที่จำนวนที่หยอดจะเริ่มตั้งแต่ 1 ถึง 365 หรือ 366 บาท คือวิธีแรกจบที่วันสิ้นเดือน พอเดือนใหม่ก็กลับมาเริ่มหยอด 1 บาทใหม่ แต่วิธีการแบบที่สองนี้ ไม่สนใจว่าจะสิ้นเดือนหรือไม่ นับต่อหยอดเพิ่มไปวันละ 1 บาท ทุกวัน ๆ สมมุติวันที่ 31 หยอด 31 บาท วันที่ 1 ของเดือนถัดไปหยอด 32 บาท วันที่ 2 หยอด 33 บาท ไล่ไปจนถึงวันสุดท้ายของปีหยอด 365 บาท แรก ๆ ยังไม่หนักเท่าไหร่ จะมาหนักเอาวันท้าย ๆ ของปี ที่จะเริ่มหยอดมากขึ้น วัน ๆ ก็หยอดไป 2-3 ร้อยตามลำดับของวันที่หยอด วิธีนี้ทำให้เรามีเงินก้อนหลายหมื่นเลยทีเดียว แต่ต้องทำตารางออกมาเพื่อเป็นการเช็คลิสต์ว่า วันไหนต้องหยอดเท่าไหร่ ป้องกันการสับสน
หัก 10 % ของเงินเดือนเข้าบัญชีเงินออมทันที
วิธีการนี้ไม่ต้องคิดมาก เปิดบัญชีออมเงินเฉพาะ ให้ทำการหักเงินไว้ออมแบบอัตโนมัติ จะออมเดือนละเท่าไหร่ก็ได้ แต่ไม่ควรต่ำกว่า 10% ของรายได้ หักออมตั้งแต่วันแรกที่เงินเดือนเข้า การให้หักเงินจากบัญชีเป็นการล้างภาพจำของเราเอง คือถ้าเงินอยู่ในมือเรา การที่เราจะเก็บออมหรือเอาไปฝากบัญชีเอง คนส่วนใหญ่จะเก็บออมยาก เพราะจะมีความจำเป็นส่วนอื่นมาเบียดเบียนเงินออมส่วนนี้ไป แต่ถ้าโดนหักไปตั้งแต่ต้น เราไม่เห็นเงิน เราก็ไม่รู้สึกว่ามีเงินส่วนนี้ไว้แต่อย่างใด หักออมทิ้งไว้สัก 2-3 ปี ผ่านไปไม่นานเราก็จะมีเงินเก็บครึ่งแสนได้อย่างสบาย ๆ
เชื่อว่าการเก็บออมเงินเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากทำ แต่บางครั้งความพลั้งเผลอ ทำให้ใช้จ่ายแบบไม่ยั้งคิด ทำให้การเก็บออมเป็นเรื่องยาก ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เก็บเงินไม่ค่อยได้ ลองใช้วิธีที่แนะนำมาข้างต้น จะออมมากออมน้อยผลลัพธ์สุดท้ายก็คือเรามีเงินออมแน่นอน ลองใช้วิธีที่ถูกจริตกับตัวเรา เพื่อให้การออมเงินเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ต้องทำเป็นนิสัยในชีวิตประจำวัน