เริ่มต้นฝึกไทเก็ก ดีต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด

เริ่มต้นฝึกไทเก็ก ดีต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด

ไทเก็กเป็นศิลปะการต่อสู้แบบจีนโบราณและเป็นการออกกำลังกายยืดกล้ามเนื้อที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน มีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจ การฝึกเคลื่อนไหวช้า ๆ หายใจลึก ๆ และเคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่อง ทำให้ใจสงบลดความเครียด ลดอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังและบรรเทาอาการของผู้ป่วยหลายโรค

การฝึกไทเก็กมีหลายประเภท ข้อดีของไทเก็กคือการฝึกที่กำหนดจังหวะด้วยตนเอง เทียบได้กับการออกกำลังกายเบา ๆ ตามสไตล์ที่ตัวเองถนัด แต่เดิมไทเก็กเป็นการฝึกฝนที่มีท่วงท่าสง่างาม เลียนแบบท่าทางของสัตว์ เช่น เสือ นกกระเรียน เมื่อทำมาปรับเป็นการออกกำลังกายเน้นการเคลื่อนไหวช้า ๆ เปลี่ยนท่วงท่าอย่างนุ่มนวลต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความสมดุลของร่างกาย ฝึกกำหนดลมหายใจและทำสมาธิไปพร้อมกัน

ไทเก็กมีประโยชน์อย่างไรบ้าง

  • ฝึกไทเก็กไม่หักโหมเหมือนกับการเต้นแอโรบิก แตกต่างจากโยคะที่ยากเกินไปและเสี่ยงบาดเจ็บได้ ถือเป็นการออกกำลังกายเบา ๆ ที่มีแรงกระแทกต่ำ ไม่เกิดการยืดเหยียดกล้ามเนื้อและข้อต่อตึงมากเกินไป โดยทั่วไปปลอดภัยสำหรับทุกเพศทุกวัย 
  • ฝึกไทเก็กเหมาะเป็นท่าเริ่มต้นสำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน หรือใช้เป็นท่ายืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกายก็ได้ โดยทั่วไปปลอดภัยกับผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุที่เคลื่อนไหวร่างกายไม่คล่องตัว ช่วยฝึกการทำงานร่วมกันของระบบประสาท ช่วยบรรเทาอาการโรคอัลไซเมอร์ ลดอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง และลดอาการของโรคพาร์กินสัน ตลอดจนผู้ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต
  • ฝึกไทเก็กช่วยลดความเครียด ลดความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อสุขภาพหลายด้าน ช่วยลดความดันโลหิต เสริมภูมิต้านทาน ผู้สูงอายุที่มีปัญหาการทรงตัวควบคุมร่างกายได้สมดุลและเสี่ยงหกล้มน้อยลง รวมถึงช่วยให้นอนหลับสนิทขึ้น
  • เหมาะสำหรับคนที่นั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นประจำ แนะนำให้ใช้ท่วงท่าไทเก็กในการลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบถลดความเสี่ยงเป็นออฟฟิศซินโดรมและลดความเครียดจากการทำงานได้เป็นอย่างดี
  • ไทเก็กเป็นการบริหารร่างกายแบบง่าย ๆ ยืดเส้นยืดสาย ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเพื่อให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังไม่มีค่าใช้จ่ายเพราะไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใด ๆ ฝึกคนเดียวหรือฝึกเป็นกลุ่มก็ได้ ฝึกไทเก็กได้ทุกที่ทั้งในร่มและกลางแจ้ง 

เริ่มต้นฝึกไทเก็กอย่างไร

ผู้สนใจสามารถหัดฝึกไทเก็กด้วยตนเองโดยการอ่านหนังสือเกี่ยวกับไทเก็กหรือดูวิดีโอจากอินเทอร์เน็ตก็ได้ ถ้าต้องการฝึกฝนอย่างจริงจัง ควรขอคำแนะนำจากผู้สอนไทเก็กโดยตรง หรือเข้าร่วมโปรแกรมการฝึกอบรมมาตรฐานเพื่อเรียนรู้เทคนิคที่เหมาะสม ก็จะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ สามารถติดต่อครูสอนไทเก็กตามศูนย์ออกกำลังกาย สโมสรสุขภาพ และศูนย์ผู้สูงอายุ ซึ่งจะให้คำแนะนำวิธีการฝึกไทเก็กอย่างปลอดภัย สอนท่วงท่าเฉพาะและเทคนิคการหายใจอย่างถูกต้อง 

แม้ว่าการฝึกไทเก็กเป็นการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างช้า ๆ แต่ถ้าทำท่าไม่ถูกต้องอาจได้รับบาดเจ็บได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นควรเรียนรู้ทักษะเบื้องต้นไว้ก่อนจะได้รับประโยชน์มากขึ้นเมื่อฝึกต่อเนื่องไปในระยะยาว