ปรับท่าทางในชีวิตประจำวัน เสริมภาพลักษณ์ให้โดดเด่นและสุดปัง

ปรับท่าทางในชีวิตประจำวัน เสริมภาพลักษณ์ให้โดดเด่นและสุดปัง

เราคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ท่าทางต่าง ๆ ในการนั่งการยืนที่ถูกต้องเหมาะสม มีส่วนในการเสริมสร้างภาพลักษณ์และปรับบุคลิกภาพต่าง ๆ ให้ดูดีขึ้น ในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เราต้องไปพบเจอกับผู้หลักผู้ใหญ่ เจ้านาย ลูกค้า นัดประชุม การคุยงาน หรือสถานการณ์สำคัญต่าง ๆ ที่เป็นพิธีการ ซึ่งบางครั้งเราก็อาจจะวางท่วงท่าจัดระเบียบร่างกายได้ยังไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก การเรียนรู้ที่จะปรับท่าทางสรีระต่าง ๆ ให้สวยงามและเหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ได้ประโยชน์แน่นอน ทั้งบุคลิกที่ดีน่าเชื่อถือ และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้ด้วย

เรามาเริ่มต้นกันที่ท่าทางการนั่ง ซึ่งเป็นท่าทางที่เรามักจะลืมตัวและปล่อยให้ร่างกายอยู่ในท่วงท่าที่ไม่สวยงาม เช่น การนั่งเอนหลังที่มากเกินไป ตัวงอ ไหล่ห่อไปทางด้านหน้า ช่วงคอยื่น คางยื่น เป็นต้น ท่าทางการนั่งที่สวยงามและเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดีคือการนั่งหลังตรง ไม่งอหลัง ช่วงอกผายออกเล็กน้อย ยืดตัวขึ้น ข้อศอกงอ เหยียดได้ตามปกติ หน้าตรง ไม่ก้มหรือแหงนหน้า สามารถนั่งติดพนักพิงหรือห่างออกมาจากพนักพิงเล็กน้อย เพื่อให้มีช่องว่างในการโน้มลำตัวหรือการเอนหลัง ขยับร่างกายได้เมื่อต้องนั่งเป็นระยะเวลานาน ๆ ในส่วนของขาควรที่จะกางขาแต่พองาม ไม่กว้างจนเกินไป หรือถ้าหากใครไม่ได้มีปัญหาเรื่องอาการปวดขาต่าง ๆ สามารถที่จะนั่งขาชิดกัน โดยเอนไปทางด้านใดด้านหนึ่งก็เป็นท่าทางที่มีความสวยงาม ทั้งในเวลาที่มองจากทางด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลัง

ลำดับต่อมาคือการปรับท่าทางการยืน อย่างที่เรามักสังเกตได้ว่าเวลาที่เรายืนนาน ๆ นั้น ท่าทางการยืนของเราจะเริ่มดูไม่สวยงาม ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ วิธีการยืนที่ถูกต้องคือการยืนหลังตรง ขาไม่งอทั้งสองข้าง ในส่วนของสะโพกเหยียดตรง ถ้าหากว่าไม่ได้มีการถือของการวางมือที่ถูกต้องคือ การนำมือมาประสานกันทางด้านหน้าหรือการวางแขนแนบลำตัว โดยให้หลีกเลี่ยงบางท่าทางที่ไม่สวยงาม เช่น การพักขา งอเข่าข้างใดข้างหนึ่ง นำมือเท้าสะเอว การกางขากว้างเกินกว่าความกว้างบ่าของตนเอง หรือการยืนก้มหลัง ไหล่ห่อ หน้าก้มต่ำ เป็นต้น เพียงเท่านี้เราก็จะได้ท่ายืนที่มีความสวยงามเสมือนได้รับการฝึกจากผู้เชี่ยวชาญด้านบุคลิกภาพ

ต้องบอกเลยว่าทั้งท่าทางการนั่งและท่าทางการยืนที่ได้แนะนำวิธีการปฏิบัติไปแล้วนั้น จำเป็นต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่แค่วันสองวันเพียงเท่านั้น แต่ควรทำจนให้เกิดเป็นนิสัย เพื่อให้มีความเคยชินในการเข้าสังคม การคุยงาน และในโอกาสต่าง ๆ ที่สำคัญ นอกจากจะทำให้ภาพลักษณ์ดูดีขึ้นแล้ว ก็ยังเสริมให้เราดูมีความเป็นมืออาชีพ มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย